คนน่ารำคาญ นั้นคืออย่างไร?
โดย แดง ใบเล่
ในชีวิตท่านผู้อ่านผู้มีอายุระหว่าง 17- 77 ปีหรือกว่านั้น ท่านคงเคยได้พบกับคนน่ารำคาญกันมาบ้างแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็สักคนสองคน...
อันที่จริงข้อเขียนบทนี้ เพียงย่อหน้าแรกข้างบนนั้นประโยคเดียวก็จบได้แล้ว ไม่เห็นจะต้องเขียนต่อไปให้เป็นที่น่ารำคาญแก่ท่านผู้อ่านอีกเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำงานส่งเพียงเท่านั้นก็มีทางเป็นไปได้ว่าท่านบรรณาธิการนิตยสารฉบับนี้ ท่านอาจจะบอกว่าเขียนมาประโยคเดียวหรือสองประโยค ท่านจะพิจารณาไม่นำลงพิมพ์ให้ อย่ามาตีกินกันง่าย ๆ นะ ที่นี่เราเขี้ยวรู้เปล่า?
เวรกรรม! เห็นจะต้องเขียนต่อไปอีกสักหน้าสองหน้า
เอ๊า...เรามาดูกันว่าคนน่ารำคาญ มันเป็นอย่างไร?
กฎข้อที่หนึ่ง คนน่ารำคาญคือคนอื่นเสมอไป ไม่ใช่ตัวเราเอง
คนรุ่นใหม่ทันสมัยแห่งยุคปัจจุบันนี้นั้น ท่านคุ้นอยู่กับการอ่านข้อความหน้าใยแมงมุม(เว็บ) ซึ่งจะคุยกันสั้น ๆ และคุยกันเร็ว ๆ ทำให้ท่านติดนิสัยอ่านไว หูไวตาไว และมือไวด้วยเพราะต้องเคาะคีย์บอร์ด ดังนั้น พอได้เห็นกฎข้อที่หนึ่งซึ่งขีดเส้นใต้ล่อเอาไว้ ท่านก็จะละสายตาข้ามเนื้อหาในลำดับถัดมา ท่านจะกระโดดโลดไปกวาดสายตาหา “กฎข้อที่สอง” กันเลย ท่านคิดว่าท่านจะเอาแต่เนื้อ ๆ นอกนั้นมันน้ำทั้งนั้น (ซึ่งบางทีก็เป็นความจริง)
แต่วิธีการนี้ จะนำมาใช้อ่านบทความชิ้นนี้ไม่ได้ นะพี่
เพราะว่า เรามีแต่กฎข้อที่หนึ่งเท่านั้น กฎข้อที่สอง-สาม-สี่ไม่มีครับ กวาดสายตาเหลือกไปเหลือกมาค้นหากี่ตลบไม่มีวันเจอ...ก็มันไม่มีอ่ะ ไม่ได้เขียนไว้อ่ะ มีแต่กฎข้อที่หนึ่งข้อเดียวเท่านั้นแหละ พี่อย่าได้เสียเวลาหาข้อที่สอง-สาม-สี่ เสียให้ยาก...จะเป็นกิจกรรมที่ไร้สาระ น่ารำคาญใจ และไม่สร้างสรรค์มากเลย
จริงอยู่ว่า คนน่ารำคาญคือคนอื่นเสมอไป แต่บางทีเราได้ยินคนพูดว่า “พักนี้ไม่รู้เป็นไง รู้สึกรำคาญตัวเอง” โดยส่วนมากคำพูดนี้ผู้พูดจะหมายตรงถึงคนฟัง หรือคนเขียนหมายตรงถึงคนอ่าน คนเรามันจะรำคาญตัวมันเองได้งัย? ถ้าเขาพูดกับเราอย่างนั้นร้อยทั้งร้อยแปลว่าเขากำลังรำคาญเรา เราได้กลายเป็นคนน่ารำคาญสำหรับเขาไปแล้ว
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ท่านผู้อ่านแน่ใจอะไรได้อยู่อย่างหนึ่ง คือ รู้ว่าผู้เขียนได้เอาตัวรอด ปลีกตัวออกจากกลุ่มชนคนน่ารำคาญไปเรียบร้อยแล้ว คนน่ารำคาญทั้งโลกที่จะเขียนถึง จึงมีจำนวนน้อยลงไปหนึ่งคน เขียนเป็นสูตรให้ทันสมัยได้ว่า
คนน่ารำคาญทั้งโลก – 1
คือลบด้วยหนึ่ง หักผู้เขียนออกไปแล้ว 1 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นใครบ้าง แล้วเราจะค่อย ๆ ดูกันไป พี่ไม่ต้องห่วงอ่านไปเรื่อย ๆ แล้วเดี๋ยวพี่จะรู้ชื่อจริงนามสกุลจริง
โดย แดง ใบเล่
ในชีวิตท่านผู้อ่านผู้มีอายุระหว่าง 17- 77 ปีหรือกว่านั้น ท่านคงเคยได้พบกับคนน่ารำคาญกันมาบ้างแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็สักคนสองคน...
อันที่จริงข้อเขียนบทนี้ เพียงย่อหน้าแรกข้างบนนั้นประโยคเดียวก็จบได้แล้ว ไม่เห็นจะต้องเขียนต่อไปให้เป็นที่น่ารำคาญแก่ท่านผู้อ่านอีกเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำงานส่งเพียงเท่านั้นก็มีทางเป็นไปได้ว่าท่านบรรณาธิการนิตยสารฉบับนี้ ท่านอาจจะบอกว่าเขียนมาประโยคเดียวหรือสองประโยค ท่านจะพิจารณาไม่นำลงพิมพ์ให้ อย่ามาตีกินกันง่าย ๆ นะ ที่นี่เราเขี้ยวรู้เปล่า?
เวรกรรม! เห็นจะต้องเขียนต่อไปอีกสักหน้าสองหน้า
เอ๊า...เรามาดูกันว่าคนน่ารำคาญ มันเป็นอย่างไร?
กฎข้อที่หนึ่ง คนน่ารำคาญคือคนอื่นเสมอไป ไม่ใช่ตัวเราเอง
คนรุ่นใหม่ทันสมัยแห่งยุคปัจจุบันนี้นั้น ท่านคุ้นอยู่กับการอ่านข้อความหน้าใยแมงมุม(เว็บ) ซึ่งจะคุยกันสั้น ๆ และคุยกันเร็ว ๆ ทำให้ท่านติดนิสัยอ่านไว หูไวตาไว และมือไวด้วยเพราะต้องเคาะคีย์บอร์ด ดังนั้น พอได้เห็นกฎข้อที่หนึ่งซึ่งขีดเส้นใต้ล่อเอาไว้ ท่านก็จะละสายตาข้ามเนื้อหาในลำดับถัดมา ท่านจะกระโดดโลดไปกวาดสายตาหา “กฎข้อที่สอง” กันเลย ท่านคิดว่าท่านจะเอาแต่เนื้อ ๆ นอกนั้นมันน้ำทั้งนั้น (ซึ่งบางทีก็เป็นความจริง)
แต่วิธีการนี้ จะนำมาใช้อ่านบทความชิ้นนี้ไม่ได้ นะพี่
เพราะว่า เรามีแต่กฎข้อที่หนึ่งเท่านั้น กฎข้อที่สอง-สาม-สี่ไม่มีครับ กวาดสายตาเหลือกไปเหลือกมาค้นหากี่ตลบไม่มีวันเจอ...ก็มันไม่มีอ่ะ ไม่ได้เขียนไว้อ่ะ มีแต่กฎข้อที่หนึ่งข้อเดียวเท่านั้นแหละ พี่อย่าได้เสียเวลาหาข้อที่สอง-สาม-สี่ เสียให้ยาก...จะเป็นกิจกรรมที่ไร้สาระ น่ารำคาญใจ และไม่สร้างสรรค์มากเลย
จริงอยู่ว่า คนน่ารำคาญคือคนอื่นเสมอไป แต่บางทีเราได้ยินคนพูดว่า “พักนี้ไม่รู้เป็นไง รู้สึกรำคาญตัวเอง” โดยส่วนมากคำพูดนี้ผู้พูดจะหมายตรงถึงคนฟัง หรือคนเขียนหมายตรงถึงคนอ่าน คนเรามันจะรำคาญตัวมันเองได้งัย? ถ้าเขาพูดกับเราอย่างนั้นร้อยทั้งร้อยแปลว่าเขากำลังรำคาญเรา เราได้กลายเป็นคนน่ารำคาญสำหรับเขาไปแล้ว
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ท่านผู้อ่านแน่ใจอะไรได้อยู่อย่างหนึ่ง คือ รู้ว่าผู้เขียนได้เอาตัวรอด ปลีกตัวออกจากกลุ่มชนคนน่ารำคาญไปเรียบร้อยแล้ว คนน่ารำคาญทั้งโลกที่จะเขียนถึง จึงมีจำนวนน้อยลงไปหนึ่งคน เขียนเป็นสูตรให้ทันสมัยได้ว่า
คนน่ารำคาญทั้งโลก – 1
คือลบด้วยหนึ่ง หักผู้เขียนออกไปแล้ว 1 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นใครบ้าง แล้วเราจะค่อย ๆ ดูกันไป พี่ไม่ต้องห่วงอ่านไปเรื่อย ๆ แล้วเดี๋ยวพี่จะรู้ชื่อจริงนามสกุลจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น