โดย เดฟ นาพญา
เราพิจารณาเรื่องรูปของคำกันก่อนน่าจะดี ส่วนความหมายของคำว่ากันทีหลังยังไม่เอาใจใส่-เดี๋ยวเราจะยุ่ง ซึ่งทำให้เราพบว่าแม้ในภาษาฝรั่งเศสที่เป็นต้นตอ คำ ๆ นี้ก็มีลูกหลอก กล่าวคือเราจะหา คำกิริยา ตรง ๆ ของคำนามคำนี้ไม่เจอ เราจะพบแต่คำกิริยาที่เพี้ยนออกไปเล็กน้อย คือคำกิริยาว่า “entreprendre”(อัง-เถรอะ-ปร็อง-เดรอะ) อันที่จริงคำนามที่ตรงกับรูปของคำกิริยา entreprendre คือ “entreprendeur” มีอักษร “d” แทรกอยู่ด้วยเช่นเดียวกับอักษร “d” ที่มีอยู่ในคำกิริยาอันเป็นรากศัพท์ แต่คำนามคำที่มีอักษร “d” แทรกอยู่ด้วยนี้เป็นคำโบราณที่เคยปรากฏใน(คริสต์)ศตวรรษที่ 13 ประมาณปลายกรุงสุโขทัยเหลื่อมกับต้นอยุธยา ครั้นถึงประมาณรัชกาลเจ้าสามพระยาเมื่อ ค.ศ. 1430 คำว่า entrepreneur ของเรา(ปราศจาก “d”) ก็ปรากฏขึ้นมาแทนที่ ส่วนคำโบราณว่า “entreprendeur” หายตัวไปเลย ไม่มีให้เราได้พบเห็นกันอีกในภาษาฝรั่งเศสสมัยใหม่
หันมามองความหมายกันบ้าง คำกิริยา entreprendre ไม่ใช่คำลึกลับ แต่มาจากคำรากที่ดาษดื่นเกลื่อนตลาดเอามาก ๆ เพราะเกิดจาก entre + prendre ท่านผู้อ่านนิตยสาร MBA จำนวนไม่น้อยที่เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสกันมา หลายท่านก็จะรู้ภาษาฝรั่งเศสดีกว่าผู้เขียนด้วยซ้ำ เราย่อมจำกันได้ว่าเพียงชั่วโมงแรก ๆ ผ่านไป ครูก็จะนำคำกิริยา “prendre” มาสอน และเราก็ต้องเริ่มท่องจำรูปและเสียงของ การผันคำกิริยา คำนี้กันแล้ว ว่า
je prends
tu prends
il prend
nous prenons
vous prenez
ils prennent
คำกิริยา “prendre” มีความหมายหลักความหมายหนึ่งละม้ายคำกิริยาภาษาไทยว่า “เอา” แถมตามความหมายที่ว่านี้ก็มีที่ใช้มั่วทั่วไปหมดคล้าย ๆ กันอีกด้วย จนเป็นเหตุให้จะต้อง.........................
(โปรดติดตามอ่านบทความเนื้อเต็ม ในนิตยสาร MBA ฉบับกันยายน 53)
เราพิจารณาเรื่องรูปของคำกันก่อนน่าจะดี ส่วนความหมายของคำว่ากันทีหลังยังไม่เอาใจใส่-เดี๋ยวเราจะยุ่ง ซึ่งทำให้เราพบว่าแม้ในภาษาฝรั่งเศสที่เป็นต้นตอ คำ ๆ นี้ก็มีลูกหลอก กล่าวคือเราจะหา คำกิริยา ตรง ๆ ของคำนามคำนี้ไม่เจอ เราจะพบแต่คำกิริยาที่เพี้ยนออกไปเล็กน้อย คือคำกิริยาว่า “entreprendre”(อัง-เถรอะ-ปร็อง-เดรอะ) อันที่จริงคำนามที่ตรงกับรูปของคำกิริยา entreprendre คือ “entreprendeur” มีอักษร “d” แทรกอยู่ด้วยเช่นเดียวกับอักษร “d” ที่มีอยู่ในคำกิริยาอันเป็นรากศัพท์ แต่คำนามคำที่มีอักษร “d” แทรกอยู่ด้วยนี้เป็นคำโบราณที่เคยปรากฏใน(คริสต์)ศตวรรษที่ 13 ประมาณปลายกรุงสุโขทัยเหลื่อมกับต้นอยุธยา ครั้นถึงประมาณรัชกาลเจ้าสามพระยาเมื่อ ค.ศ. 1430 คำว่า entrepreneur ของเรา(ปราศจาก “d”) ก็ปรากฏขึ้นมาแทนที่ ส่วนคำโบราณว่า “entreprendeur” หายตัวไปเลย ไม่มีให้เราได้พบเห็นกันอีกในภาษาฝรั่งเศสสมัยใหม่
หันมามองความหมายกันบ้าง คำกิริยา entreprendre ไม่ใช่คำลึกลับ แต่มาจากคำรากที่ดาษดื่นเกลื่อนตลาดเอามาก ๆ เพราะเกิดจาก entre + prendre ท่านผู้อ่านนิตยสาร MBA จำนวนไม่น้อยที่เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสกันมา หลายท่านก็จะรู้ภาษาฝรั่งเศสดีกว่าผู้เขียนด้วยซ้ำ เราย่อมจำกันได้ว่าเพียงชั่วโมงแรก ๆ ผ่านไป ครูก็จะนำคำกิริยา “prendre” มาสอน และเราก็ต้องเริ่มท่องจำรูปและเสียงของ การผันคำกิริยา คำนี้กันแล้ว ว่า
je prends
tu prends
il prend
nous prenons
vous prenez
ils prennent
คำกิริยา “prendre” มีความหมายหลักความหมายหนึ่งละม้ายคำกิริยาภาษาไทยว่า “เอา” แถมตามความหมายที่ว่านี้ก็มีที่ใช้มั่วทั่วไปหมดคล้าย ๆ กันอีกด้วย จนเป็นเหตุให้จะต้อง.........................
(โปรดติดตามอ่านบทความเนื้อเต็ม ในนิตยสาร MBA ฉบับกันยายน 53)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น